วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ซูชิต้นทุนต่ำ กำไร 2 เท่าตัว

ซูชิต้นทุนต่ำ กำไร 2 เท่าตัว
 
 
 
      คุณสุนันท์เผยว่า หัวใจของซูชิคือการเลือกวัตถุดิบ ถ้าเน้นถูกไว้ก่อนรสชาติก็จะเพี้ยนไปมาก ที่สำคัญอย่างแรกคือข้าว ข้าวซูชิที่ดีจะต้องนุ่ม เป็นเม็ดสวยงาม ควรใช้ข้าวญี่ปุ่นทำเม็ดจะกลมสวยกว่าข้าวไทย และมีความเหนียวปั้นได้ง่าย ราคาข้าวญี่ปุ่นตกกิโลกรัมละ 50 บาท หุงข้าวญี่ปุ่น 8 ถ้วยตวงจะทำซูชิได้ 250 คำ คิดเป็นต้นทุนก็หลักสตางค์
      ต้นทุนของซูชิถ้าเป็นหน้าเบสิค ยกตัวอย่างเช่น หน้ากุ้ง ถ้าซื้อวัตถุดิบมาทำเอง กุ้งต้นทุนตัวละ 1 บาท ต้นทุนข้าว 30 สตางค์ คิดเป็นต้นทุนต่อคำ 1.50 บาท แต่ขายซูชิในราคา 5 บาท กำไร 3.50 บาท คิดเป็น 200%จากต้นทุน ถ้าเป็นซูชิหน้าปลาแซลมอน หน้าปลาไหล ต้นทุนจะสูงขึ้นอยู่ที่คำละ 4 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ตามร้านซูชิ 5 บาท จะตัดหน้าปลาแซลมอนออกไปเลย แต่ถ้าจะขายก็อาจจะเปลี่ยนราคาเป็นซูชิ 10 บาท
    “สำหรับการเติบโตในธุรกิจของโมกุนซูชิ ปัจจุบันมียอดขายโดยเฉลี่ยวันละประมาณ 2,000 ชิ้น และยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นตลาดซูชิยังไปได้อยู่และไม่ตัน เป็นอาหารที่กินง่าย ที่สำคัญหน้าซูชิต้องอร่อยและมีหน้าให้เลือกหลากหลาย ซูชิสามารถปรับเปลี่ยนได้อีกเยอะ หน้าร้านก็ต้องงัดกลยุทธ์ทำสดจะเรียกลูกค้าได้มาก ดูน่ากินมากกว่าเดิม ส่วนแนวทางในอนาคตจะขยายไลน์ธุรกิจแต่ก็ยังคงอยู่ที่อาหารซูชิเหมือนเดิมไม่เพิ่มสาย เคยมีเพื่อนชวนไปขายบะหมี่ราเมน แต่พี่มองว่าราเมนยังตีก๋วยเตี๋ยวไทยไม่ได้ในตลาดล่าง ทั้งในแง่ราคาและความหลากหลายและคุ้มค่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น